บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN โชว์ยอดโอน 6,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 147% สูงกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 28% มียอดขาย 10,618 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 39%
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ เปิดเผยยอดโอนในไตรมาส 2 ที่ระดับ 6,759 ล้านบาท ซึ่งรวมยอดโอนจากโครงการร่วมทุน เพิ่มขึ้น 147% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าเป้าที่วางไว้ 28% นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการสร้างผลกำไรสุทธิที่ 584 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 109% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 303% จากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อน โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากบริษัทฯได้รับรู้ผลกำไรจากโครงการร่วมทุน สูงถึง 539 ล้านบาท จากที่มีผลขาดทุน 300 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้บริษัทยังมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 24% จาก 7% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ไตรมาส 2 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 1 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7,223 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียมไอดีโอ พระราม 9-อโศก มูลค่าโครงการ 6,822 ล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้าสถานี MRT พระราม 9 และโครงการทาวน์โฮม ยูนิโอ ทาวน์ เพชรเกษม 110 มูลค่าโครงการ 401 ล้านบาท
ในส่วนของยอดขายจากโครงการใหม่ และโครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้าทำได้ 10,618 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่วางไว้ถึง 39% บริษัทฯ ยังคงเป้ายอดขายทั้งปีที่ 35,100 ล้านบาท ทั้งนี้ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาสสองปี 2561 จำนวนกว่า 54,600 ล้านบาท รองรับการโอนใน 3 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้น 10% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน
บริษัทฯ มียอดโอนสูงกว่าเป้าที่วางไว้ ตลอดจนโครงการคอนโดมิเนียมแอชตัน จุฬา-สีลม ที่มียอดโอนเกินเป้าหมาย และโครงการแอชตัน อโศก ที่สามารถโอนได้เร็วกว่าคาดในไตรมาสที่สองนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะโอนในไตรมาสที่สี่ ซึ่งบริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ายอดโอนเติบโต 152% จากปี 2560 เป็น 38,000 ล้านบาท ในปี 2561 ทั้งนี้บริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่จะโอนในปี 2561 มูลค่ากว่า 23,300 ล้านบาท คิดเป็น 85% ของเป้ายอดโอนในช่วงครึ่งปีหลังของปี ซึ่งรวมส่วนแบ่งยอดโอนของ อนันดา และมิตซุย ฟูโดซัง มาจากคอนโดมิเนียม 9 โครงการที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนในปี 2561 เพิ่มเติมจากคอนโดมิเนียมใหม่ 8 โครงการที่แล้วเสร็จในปี 2560
ส่วนกระแสเงินสดของบริษัทฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นสุดไตรมาสยังคงรักษาเงินสดที่มีมากกว่า 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น เป็น 11.5 สตางค์ เพิ่มขึ้น 92% จากปีก่อนหน้า โดยมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่มีการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัท