บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวเปิดตัว โครงการ “สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” บ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักชัวรี่ มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท มีเพียง 25 หลัง ในเนื้อที่ 45 ไร่ ราคาเริ่มต้นที่ 245 ล้านบาท
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้เปิด โครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส” มูลค่าโครงการสูงถึง 6 พันล้านบาท ทำให้สิงห์เอสเตท ก้าวขึ้นสู่การเป็น Leading Premier Brand ทั้งโครงการแนวสูงและแนวราบ ในระดับ luxury ถึง ultra-luxury โดยที่ดินแปลงนี้เป็นของตระกูลภิรมย์ภักดี ที่บริษัทได้มาเมื่อครั้งตั้งบริษัท 4 ปีที่แล้ว
ด้านนายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานพัฒนาธุรกิจที่อยู่อาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา และเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในปี 2559 ซึ่งความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆนั้น สวนทางกับ จำนวนซัพพลายในตลาดมีน้อย อีกทั้งส่วนมากโครงการในระดับราคานี้มักเป็นบ้านเดี่ยวแนวสูงที่อยู่ใจกลางเมือง หรือบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณชานเมือง ซึ่งอาจยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ดังนั้นบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่และอยู่ในบริเวณรอบใจกลางเมืองจึงน่าจะเป็นสิ่งที่เติมเต็มในจุดนี้ได้ ”
สำหรับโครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดกว่า 45 ไร่ ติดถนนประดิษฐ์มนูธรรม เราใช้เวลาในการพัฒนาโครงการมานานเกือบ 4 ปี โดยเริ่มตั้งแต่การทำ รีเสิร์ชกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อหาความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้า โดยพบว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอย่างอย่างมาก จึงเป็นที่มาของ“CONNOISSEUR OF PLEASANT LIVING”ด้วยจำนวนบ้านทั้งโครงการเพียง 25 หลัง โดยบ้านแต่ละจะปลูกสร้างอยู่บนที่ดินขนาดไม่น้อยกว่า 1 ไร่ ที่เหลือพื้นที่มากกว่า 15 ไร่ เป็นพื้นที่ส่วนกลาง
“สำหรับตัวบ้าน ซึ่งออกแบบโดยบริษัท A 49 เป็นแบบ LUXURY MODERN TROPICAL ที่เน้นความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ มีความทันสมัยและโก้หรู และมีความเหมาะสมกับภูมิอากาศแบบร้อนชื้นของประเทศไทย บ้านทุกหลังหันหน้าทิศเหนือ-ใต้ มีการนำกระจกบานใหญ่พิเศษเข้ามาเป็นส่วนประกอบของบ้าน เพื่อเปิดรับความเป็นธรรมชาติเข้าสู่ภายใน ทำให้บ้านได้รับแดดและลมในเวลาที่เหมาะสม มีการระบายอากาศที่ดี โดยมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ เป็นแบบ2 ชั้น 2 หลัง พื้นที่ใช้สอย 1,437 ตารางเมตร และ 1,366 ตารางเมตร และแบบ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 1,455 ตารางเมตร โดนลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบภายในได้ตามต้องการ ในราคาเริ่มต้นที่ 245 ล้านบาท ปัจจุบันขายไปได้แล้ว 3 หลังประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยผู้1 ใน 3 รายเป็นคนในตระกูลภิรมย์ภักดี ตั้งเป้าโอนสิ้นปีนี้ 6 ยูนิตคิดเป็นมูลค่า 600-700 ล้านบาท
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าในส่วนของที่ดิน ลูกค้าสามารถเลือกซื้อมากกว่า 1 แปลงเพื่อใช้ปลูกสร้างบ้านได้ ในราคาตารางวาละ 300,000 บาท หรือไร่ละ 124 ล้านบาท ส่วนบ้านจะสร้างเสร็จหลังโอนที่ดิน 1 ปีครึ่ง โดยค่าก่อสร้างเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 บาท/ตารางเมตร ตั้งเป้ายอดขายหมดในปีหน้า โดยมีผู้สนใจลงชื่อเข้าเยี่ยมชม แล้ว 100 ราย
สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีข่าวฉาว เป็นคนที่ชอบความสงบ และมีทรัพย์สินนับพันล้าน ด้วยนอกจากบ้านจะมีราคาแพงมากแล้ว ค่าใช้สอยพื้นที่ส่วนกลาง 100 บาท/1ตารางวา/เดือน ส่วนปี 2562 มีแผนที่จะเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 2-3 โครงการ ขนาด 200-400 ยูนิต รวมมูลค่า10,000 ล้านบาท