อพท.ประกาศผนขับเคลื่อน 4 ปี ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ ยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนทัวประเทศขึ้นแท่นมาตรฐานโลก เตรียมขยายพื้นที่ดำเนินการครอบคลุม 9 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว ตอกย้ำแนวทางการใช้กลไกการท่องเที่ยวขับเคลื่อนชุมชนเพื่อ แก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม”
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ รองผู้อำนวยการ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ องค์การบริการการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.เปิดเผยว่า เพื่อสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และนโยบายรัฐบาลมุ่งเน้นสร้างความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมทางสังคม สนับสนุนการ “แก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ” อพท.ได้มีการจัดทำแผนขับเคลื่อน อพท.2562-2565 เพื่อเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ชาติ ภายใต้วิสัยทัศน์ เป็นองค์กรความเป็นเลิศด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างชุมชนแห่งความสุข
ประเด็นยุทธศาสตร์ อพท.ที่จะขับเคลื่อนระยะ 4 ปี(พ.ศ.2562-2565)นับจากนี้ ประกอบด้วย 1.บริหารการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจสู่ความเป็นพื้นที่ต้นแบบการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน 2.พัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยชุมชนที่ได้มาตรฐาน 3.บูรณาการ ประสาน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคีในการจัดการการท่องเที่ยว 4. ขับเคลื่อนสูงองค์กรที่เป็นเลิศในการบริหารจัดการการท่องเที่ยว เน้นการดำเนินงานภายใต้ 2 รูปแบบหลักๆคือ
1.จุดเน้นเชิงพื้นที่ เพื่อให้เกิดการขยายผลต้นแบบพื้นที่พิเศษของ อพท.ในพื้นที่อื่น โดยการจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่และการประกาศพื้นที่พิเศษ ขยาการดำเนินงานไปในพื้นที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว พร้อมการขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนดังนี้
พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะผลักดันต้นแบบของการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผ่านการเล่าเรื่อง Story Telling เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มต่อไป
การพัฒนาตามแนว Thailand Riviera (หัวหิน-ชะอำ) จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ โดยการดำเนินการจัดทำแผนและประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนหัวหิน-ชำอำ
จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยการดำเนินงานโดยขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน
การพัฒนาเครือข่ายลำน้ำคลองดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี
การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้
การพัฒนาเส้นทางสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง(ไทย-สปป.ลาว)ขยายผลการดำเนินงานสู่ One ASEAN Destination
การพัฒนาในเขตอารยธรรมอีสานใต้ สามเหลี่ยมมรกต(ไทย-ลาว-กัมพูชา)
การพัฒนาพื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(EEC)โดยเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแผนบูรณาการการท่องเที่ยวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก
2.จุดเน้นการบริหารจัดการ เพื่อเดินหน้าสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยฃุมชน(Community-Based Tourism CBT )ในรูปแบบ CBT Storytelling และเตรียมแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดย ชุมชน การนำร่องการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์(Creative Tourism) การท่องเที่ยวทางน้ำ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร การพัฒนาเมืองและชุมชนอันจะนำไปสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานประสานงารนและบูรณาการหน่วยงานและภาคีที่เกี่ยวข้องพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การบริหารจัดการมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ และมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ในพื้นที่พิเศษ และการพัฒนาและขยายผลองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท.บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในประเทศและระดับนาตาชาติ
นายทวีพงษ์ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงาน ของ อพท.ที่ผ่านมามีผลสำเร็จเป็นรูปธรรมมากมาย จึงได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ร่วมเป็นเจ้าภาพภายใต้แผนแม่บท ประเด็นสร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม และเดินหน้าพัฒนาการท่องเที่ยวให้ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ร่วมถึงมอบหมายให้เป็นหน่ยยงานหลักร่วมดำเนินการในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่ และโครงการพัฒนาที่สำคัญหลายโครงการของประเทศ เช่น พื้นที่พิเศษเมิองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง จะเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแผนบูรณการการท่องเที่ยวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC การพัฒนาและขับเคลื่อนพื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร และพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่านในการเป็นต้นแบบของการพัฒนาสู่เมืองสร้างสรรค์ หรือ Creative City ตามหลักเกณฑ์ของ UNESCO การขยายผลการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวระหว่างประเทศร่วมกันในนามของการท่องเที่ยวสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง ระหว่างพื้นที่พิเศษเลยและ สปป.ลาว ซึ่งภารกิจดังกล่าวที่จะมีผลต่อการพัฒนาที่ขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วย
ปัจจุบัน พื้นที่ดำเนินงาน อพท. ตามมติคณะรัฐมตรีมีทั้งสิ้น 6 แห่ง ได้แก่ 1. พื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง 2.พื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง 3.พื้นที่พิเศษยุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร 4.พื้นที่พิเศษ เลย 5.พื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน และ 6.พื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทอง นอกจากนั้นยังได้รับมอบหมายจกรัฐบาลให้เข้าไปพัฒนาเรื่องการบริหารจัดการการท่องเที่ยอย่างยั่งยืนให้กับ 6 ตำบลในคุ้งบางกะเจ้า
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ อพท. สามารถดำเนินการตามแผนขับเคลื่อน 4 ปี และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ อพท.ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขพระราชกฤษ๋ฎีกาจั้งตั้งองค์กร คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆนี้ จากนั้นจะดำเนิน่การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อปรับบทบาทภารกิจให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2560 กรอบยุทธศาสตร์ฃาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12(พ.ศ.2560-2564 )แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ.2560-2564)Sustainable Development Goals หรือ SDGs แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งการได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้ร่วมดำเนินงานในเขตพัฒนาการท่องเที่ยว เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนภารกิจในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน่และพัฒนาขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เน้นด้านความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมและวิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเมื่อแก้ไขพระราชกฤษฏีกาจัดตั้งองค์กร อพท.จะขยายพื้นที่การดำเนินงานครอบคลุม 9 เขตพัฒนาการท่องเที่ยว