พฤกษาปรับแผนตลาดล่างเพิ่มสุดส่วนคอนโดแนวเตี้ย

พฤกษาฯ เผย กำลังซื้อต่างชาติหด ปรับแผน ธุรกิจกลุ่มแวลู เน้นเปิดคอนโดเตี้ย  สร้างเร็ว โอนเร็ว เพิ่มสัดส่วนเป็น 40 % จาก 12 คอนโดเปิดใหม่ มูลค่า 1,600 ล้านบาท เน้น 3 แบรนด์หลัก เดอะทรี ,เดอะไพรเวซี่, ไอวี่

นายปิยะ​ ประยงค์​  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร​ กลุ่มธุรกิจพฤกษา​ เรียลเอสเตท-แวลูบริษัท​ พฤกษา​ เรียลเอสเตท​ จำกัด(มหาชน)​ กล่าวว่า คอนโดแนวรถไฟฟ้าห่างไม่เกิน 500 เมตรยังไปได้ ตลาดคอนโดโอเวอร์ซัพพลายในบางทำเลเท่านั้น ตลาดคอนโดยังโตได้4-5% เนื่องจากกรุงเทพมีประชากร 11 ล้านคน 5ล้านคนยังไม่มีที่อยู่อาศัยในขณะที่ปีหนึ่งๆคนที่มีกำลังซื้อได้ประมาณ2แสนกว่าหน่วย

อย่างไรก็ตาม ด้านแผนการเปิดคอนโดมิเนียมของกลุ่มธุรกิจพฤกษาแวลูในปีนี้ มีการเตรียมที่ดินเพื่อพัฒนาไว้แล้วในหลายทำเล และเพื่อเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบใหม่ (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในปีนี้ จึงปรับแผนเปิดโครงการเป็นคอนโดมิเนียมที่มีรอบธุรกิจ 1-2 ปี เพื่อยืดระยะเวลาผ่อนดาวน์ให้มากขึ้น โดยจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมที่เป็นโลไลท์  ถึง40%จากเดิม 20% คอนโดที่เป็นแนวสูง 60% เนื่องจากคอนโดโลไรท์สร้างเสร็จใน 8-12เดือน ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้โอนได้เร็วเท่าไหร่ จะยิ่งส่งผลดีต่อบริษัท เพราะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามาช่วยในการลงทุน ในขณะที่ตึกสูงต้องใช้เวลาก่อสร้าง 2-3 ปี

สำหรับคอนโดมิเนียมในกลุ่มธุรกิจแวลูปีนี้มีแผนเปิด 12โครงการ​มูลค่า​1,600ล้านบาท​ โดยเป็นแบรนด์เดอะทรี ​ ราคา2-4ล้านบาทรวมแบรนด์ พลัมราคา ​2 ล้านบาท  70%  เดอะ ไพรเวซี่​ 2-3โครงการ​ราคา2-3ล้านบาท ไอวี่2โครงการ โดยโครงการที่จะเปิดใหม่ส่วนใหญ่อยูในทำเลสุขุมวิท​18​  ​ รามอินทรา  เช่นบริเวณใกล้ๆเซ็นทรัลรามอินทรา

โดยภาพรวมของพฤกษามีลูกค้าต่างชาติ​ 10% แต่เฉพาะคอนโดมีลูกค้าต่างชาติ​ 30% ปีนี้ลูกค้าต่างชาติของคอนโดลดลงเหลือ​ 20​ % ทั้งบริษัทเหลือ​ 7-8%  โดยตลาดคอนโดโตประมาณ 4-5% จากที่ผ่านมาเคยโต 18-19% เนื่องจากได้แรงหนุนจากยอดขายต่าง 40-50%

สำหรับแบรนด์เดอะทรี​ 80%เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่เอง​ ซื้อเพื่อการลงทุน​ 20​ %โดยเป็นต่างชาติ​ 10​% เป็นชาวจีน​ 60-70%ในปี 2562 แบรนด์ “เดอะทรี” ทเตรียมพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าจำนวน 4 โครงการได้แก่ เดอะทรี สุขุมวิท 71 เอกมัย, เดอะทรี จรัญสนิทวงศ์ 30  เดอะทรี ลาดพร้าว 15  และ เดอะทรี ดินแดง ราชปรารภ มูลค่า 4,816 ล้านบาท  โดยแบรนด์เดอะทรี เป็นคอนโดมิเนียมระดับราคา 2-5 ล้านบาท เน้นทำเลที่อยู่ในเมือง ใกล้รถไฟฟ้า  ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมการอยู่อาศัย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มากกว่าคอนโดในระดับราคาเดียวกัน  ซึ่งมีการทำการตลาดรูปแบบใหม่ (New Marketing Approach) และเพิ่มช่องการทางขายด้วยการเปิดให้จองออนไลน์ (Online Booking)  สอดรับกับยุคดิจิทัล ซึ่งนำมาใช้กับโครงการเดอะทรี ดินแดง ราชปรารถ เป็นโครงการแรกและสามารถปิดการขายได้ในเพียง 10 นาที  โดยคอนโดมิเนียมเดอะทรีทุกโครงการที่เปิดขายได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าตั้งแต่ในช่วงเปิดพรีเซล ปัจจุบันสามารถปิดการขายได้เกือบ 100% ทุกโครงการแล้ว  มีเพียง เดอะทรี จรัลสนิทวงศ์ 30 ที่ยังเหลือ 30 % และเดอะทรี ลาดพร้าวที่มีคืนกลับมา 9 ห้อง

นายธิติพัฒน์ อดิลักษณ์ธราดล กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม 1 บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ได้เตรียมส่งมอบโครงการ “เดอะทรี สุขุมวิท 71-เอกมัย” คอนโดมิเนียมสูง 33 ชั้น พื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่  จำนวน 886 ยูนิต  มูลค่าโครงการรวม 2,600 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100%  จุดเด่นโครงการอยู่ที่ทำเลซึ่งอยู่ในแหล่งชุมชน ใกล้ใจกลางเมือง สามารถเชื่อมต่อไปย่านใจกลางธุรกิจอโศกหรือสุขุมวิทได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนง ใกล้แอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีรามคำแหงเพียง 300 เมตร นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากถึง 3 โซน ที่ดีไซน์มาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าครบทุกมิติการใช้ชีวิต และสามารถใช้งานได้จริงทุกฟังก์ชั่น โดยไฮไลท์ของโครงการคือจุดชมวิว “Observation Deck” ที่เป็นระเบียงแก้วกลางอากาศ และมีพื้นกระจกใสบนชั้นดาดฟ้า ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแห่งแรกของพฤกษาที่สามารถชมวิวเมืองได้ถึง 720 องศา