โนเบิล เปิดกลยุทธ์คว้าเป้ารายได้ 3 หมื่นล้านบาทในอีก3ปี ลดโครงการระดับราคา 2-3 แสนบาทต่อตารางเมตร รุกเปิดตลาดระดับ 1-1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร ตั้งเป้าอีก 5 ปีเพิ่มสัดส่วนเป็น 60 % พร้อมเร่งยอดขายในต่างประเทศ ตั้งเป้า 4,000 ล้านบาท
2 เมษายน 2562 นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และกรรมการผู้จัดการ ร่วมกับ นายแฟรงค์ เหลียง รองประธานการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (มหาชน) ร่วมกันแถลงแผนการดำเนินธุรกิจ หลังจาก ฝ่ายประชาสัมพันธ์ร่อนข่าวการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น พร้อมกับการเปลี่ยนตัวผู้บริหารแจกบรรดาสื่อมวลชนเมื่อ 25 เมษายนที่ผ่านมา โดยแต่งตั้งนายกิตติ ธนากิจอำนวย ที่เคยเป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ให้ดำรงตำแหน่งประธานกิตติคุณ พร้อมแต่งตั้ง นายธงชัย บุศราพันธ์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และกรรมการผู้จัดการ ของบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โดยนายธงชัย บุศราพันธ์ เข้ามาถือหุ้น ร้อยละ 23.3 ฟัลครัม-โกลบอล แคปิตอล (Fulcrum Global Capital) ซึ่งนายแฟรงค์ เหลียง เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าถือหุ้นร้อยละ 24.9 ในโนเบิลผ่านการลงทุนภายใต้ชื่อบริษัท เอ็นคราวน์ จำกัด (nCrowne Pte. Ltd.) บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTSG) ถือหุ้นร้อยละ 9.9 ขณะที่นายกิตติ ถือหุ้น 4.17 % โดยจะมีเป้าหมายการเพิ่มยอดรับรู้รายได้ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาท) ในสามปีข้างหน้า
นายธงชัย กล่าวว่า กลยุทธ์ที่จะทำให้คว้ารายได้ 30,000 ล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้า 2562-2564 และอัตราผลตอบแทนต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็น 30 % โดยจะยังคงรักษาอัตราส่วนของหนี้ต่อทุนสุทธิที่ 1.5 เท่าโดยแต่ละปีจะทำรายได้ให้ได้ปีละ 10,000 ล้านบาท ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่เปิดปีละ 4-5 โครงการ พร้อมเร่งขายโครงการที่มีสต็อกอยู่ 17,000 ล้าน จาก 7 โครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งขายได้แล้วเฉลี่ย 75 % และหลังสร้างเสร็จจะมีการปรับราคาขึ้นไปอีก 5-10 % โดยมีสินค้าที่สร้างเสร็จพร้อมขายอยู่ 6,000 ล้านบาท เป็นของโครงการโนเบิล เพลินจิต 4,000 ล้านบาท
ขายพื้นที่อาคารพาณิชย์ที่มีอยู่เพื่อนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพมากกว่า ขายพื้นที่รีเทล 4 โครงการ รวมประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อนำไปลงทุน คาดว่าจะได้กำไรประมาณ 20-30 % เพิ่มยอดขายในต่างประเทศ โดย นายแฟรงค์ เหลียง กล่าวว่า ช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดต่างประเทศ โดยมียอดจองในไตรมาสที่ 1 ทั้งสามเดือนทำได้แล้ว 2,500 ล้านบาทเป็น 60% เทียบกับยอดจองทั้งปี 2561 โดยปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 4,000 ล้านบาท ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของโนเบิลฯ เติบโตขึ้นมากจาก 8% ในปี 2561 เข้าสู่ระดับที่มากกว่า 28% ในไตรมาสนี้ รวมทั้งเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดต่างประเทศของบริษัท โนเบิลฯ อย่างเข้มแข็ง ซึ่งเป็นผลทำให้ยอดขายเพื่อรอรับรู้รายได้ของโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นสูงกว่า 75%
นอกจากนี้ “ยังมีการเปิดแบรนด์ใหม่ คือ NUE เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับราคา 3-7 ล้านบาท/ยูนิต หรือ 100,000-150,000 แสนบาทต่อตารางเมตร จากที่พัฒนาอยู่ระดับราคา 200,000-300,000 บาทต่อตารางเมตร คิดเป็น 15-20 % ของรายได้ และจะเพิ่มเป็น 60 % ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยในอนาคตจะมีการซื้อที่ดินเพิ่มปีละ 3,000 ล้าน ในทำเลที่มีศักยภาพ ติดแนวสถานีรถไฟฟ้า พร้อมกันนี้ได้มีเปลี่ยนโลโก้ของ NOBLE ใหม่ โดยนำในส่วนที่เป็นมงกุฎด้านบนออก“นายธงชัยกล่าว
ส่วนปีนี้จะมีการเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาส 3-4 จำนวน 4-5 โครงการ รวมมูลค่า 15,000 ล้านบาท
1 comment
… [Trackback]
[…] Here you will find 44478 more Info on that Topic: outaboxes.com/2019/05/03/2-ผู้บริหารโนเบิลแถลงแผน/ […]
Comments are closed.