ALL ปักหมุด แตกไลน์ธุรกิจ Shopping Mall ชลบุรี ขยายอาณาจักรสู่ EEC ส่งสัญญาณโกยรายได้เข้ากระเป๋าอีก 200 ล้านบาทต่อปี ดันภาพรวมธุรกิจโตต่อเนื่อง
บมจ. ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) ระบุที่ประชุมบอร์ดไฟเขียวลงทุนธุรกิจ Shopping Mall ใจกลางเมืองชลบุรี มูลค่ารวมประมาณ 600 ล้านบาท อายุสัญญาเช่า 29 ปี หวังติด Top of Mind ของลูกค้าเมืองชลบุรี พื้นที่ใกล้เคียง และเขตระเบียงเศรษฐกิจ EEC ด้านผู้บริหาร “ธนากร ธนวริทธิ์” คาดโกยรายได้เข้ากระเป๋า 200 ล้านบาทต่อปีหลังเปิดบริกาเติมปีในปี 64 หนุนเป้า 3 ปี (62 – 64) รายได้โตเท่าตัว จากปี 62 คาดรายได้ยอดขายแตะ 4,500 ล้านบาท หลังขยายธุรกิจครบวงจรทั้งอสังหาเพื่อที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า ค้าปลีก หนุนมาร์เก็ตแคปปี 64 แตะหมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALLเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติจัดตั้งบริษัทย่อย ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอาคารศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า พร้อมก่อสร้าง ดัดแปลง อาคารศูนย์การค้า จังหวัดชลบุรี มีอายุสัญญาเช่า 29 ปี มูลค่ารวมประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มช่องทางการสร้างการเติบในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ ลดความเสี่ยงการพึ่งพิงรายได้อสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว โดยจะดึงผู้บริหารระดับมืออาชีพเข้ามาบริหารจัดการ ศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า ที่จะมีทั้ง ศูนย์การค้า ค้าปลีก บนพื้นที่ 11-3-74 ไร่ ซึ่งมีพื้นที่ Gross Building Area รวม 34,952 ตารางเมตร และพื้นที่ให้เช่า (Gross Leasable Area) 11,593 ตารางเมตร โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม 2562 โดยคาดว่าเปิดได้ในครึ่งปีหลังของปีหน้า
บริษัทตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งการตลาดของตลาดศูนย์การค้า และค้าปลีกในชลบุรี อีกทั้งยังคาดหวังจะเป็น Top of Mind ของลูกค้าในพื้นที่ใจกลางเมืองชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง รวมไปถึงเขตระเบียงเศรษฐกิจ EEC และคาดว่าจะจะมีรายได้เดือนละกว่า 10 ล้านบาท จากธุรกิจ Shopping Mall หลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในครึ่งปีหลัง 2563 และหลังจากเปิดบริการเต็มปีในปี 2564 จะส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมาจากรายได้ค่าเช่า 90% และอื่นๆ อีก 10%
ดังนั้นมั่นใจว่าเป้ารายได้ใน 3 ปีจากนี้ 2562 – 2564 เติบโตอีกเท่าตัว จากปี 2562 ที่ตั้งเป้ารายได้ที่ระดับ 4,500 ล้านบาท และแตะระดับ 10,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า