Home ArticleHow to Eco print

How to Eco print

by Outaboxes Editorial

by wimolwal

ตอนที่ 1

จากจุดเริ่มต้นที่​ โลกนี้มีแต่ต้นไม้​  สัตว์น้อยใหญ่อาศัยอยู่ในป่า​  มนุษย์นุ่งห่มใบไม้​ แต่ด้วยความชาญฉลาดของมนุษย์​ โลกที่มีแต่ต้นไม้กลายสภาพเป็นป่าคอนกรีต​ มนุษย์มีเสื้อผ้าอาภรณ์ห่อหุ้มร่างกายที่งดงาม​ สีสันจัดจ้าน​ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มาพร้อมกับมลพิษ​และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม

มนุษย์บางกลุ่มเริ่มตระหนักและฉุกคิด​ และพยามที่จะหันมาใช้สิ่งของที่มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม​ ไม่ทำลายธรรมชาติ​ อย่างเช่น​เสื้อผ้าที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติ

Eco printing​ เป็นกระบวนการพิมพ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โนที่นี้ใช้วิธีการพิมพ์ผ้าด้วยใบไม้ ถ่ายโอยสีและโครงสร้างจากใบไม้สู่ผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ​ เช่น​ ฝ้าย​ ไหม​ ซึ่งเริ่มมีชิ้นงานอวดโฉมให้เห็นบนโลกออนไลน์ในต่างประเทศ

ในส่วนของประเทศไทย​Eco ​printing ยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก​ ไม่เหมือนผ้ามัดน้อมที่รู้ตักกันอย่างแพร่หลาย​ เท่าที่เห็นมีผู้ผลิตชิ้นงานทีเป็น​Eco printing ​อยู่เพียง​ 3-4 รายเท่านั้น(หรืออาจมีมากกว่านี้แต่ผู้เขียนยังไม่ทราบ)​

ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่สนใจ​Eco​ Printing​ จากจุดเริ่มต้นการมัดย้อมด้วยสีวิทยาศาสตร์​ มาเป็นการมัดย้อมด้วยสีธรรมชาติ​ ซึ่งพบว่านอกจากมันจะดีต่อสิ่งแวดล้อมาแล้ว​ สีสันที่ได้ยังเปร เปลี่ยนไปตามการใช้ตัวที่ช่วยทำให้สีตืด.มากขึ้น​ ที่เรียกกันส่าตัว​ ฟิกสี​ (Mordant)​รวมถึงสภาพอากาศด้วย​

จากการมัดย้อม​ เริ่มมองหาสิ่งทีแปลกใหม่​ แล้วก็พบว่า​ Eco​  printing ​เป็นเรื่องที่ท้าทาย​ สร้างความแปลกใหม่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง ​ทั้งเรื่องสีสันและลวดลาย​ ยิ่งเห็นชิ้นงานที่โพสต์ขายกันอยู่ในต่างประเทศแล้ว​ ยิ่งชวนให้หลงใหลมากขึ้น

ผู้เขียนใข้เวลาศึกษาค้นคว้ากระบวนการถ่ายโอนสีจากใบไม้ลงสู่ในอินเตอร์เน็ตมากว่า​ 1​ ปี​พบ​ ข้อมูลในการให้ความรู้เรื่องนี้ในเมืองไทยมีน้อยมาก(ช่วงแรกที่หาข้อมูลแทบไม่มีเลยก็ว่าได้)​ส่วนใหญ่เป็นการแชร์ประสบการณ์ในการทดลองทำของผู้ที่สนใจในเรื่องนี้ ซึ่งถึงแม้จะมีแนวทางที่คล้ายกัน​ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับแตดต่างกัน​ บางรายก็มีแนวทางทีต่างกันไป

ผลลัพธ์ของความต่างที่ได้เกิดจากความต่างของแหล่งกำเนิดของต้นไม้ชนิดนี้​น​ เช่นมะม่วงเขียวเสวยที่ปลูกในจังหวัดสมุทรสาคร​ รสชาติจะหวานมัน​ อร่อยมาก(เคยเอาไปฝากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่าไม่เคยทานเขียวเสวยอย่อยแบบนี้ที่ไหนมาก่อน)​ ชนิดของตัว mordant ปริมาณความเข้มข้นของตัวmordant   ระยะเวลานึ่ง

หลายคนคงสงสัยว่าแล้วใบไม้ชนิดไหนที่ให้สี​บ้าง​ คงไม่บอกไม่ได้แน่ขัด​  แต่มีวิธีสังเกตง่ายๆคือ​ ต้นไม้ขนิดใดก็ตามที่ใบให้รสหวาน​ สีมักจะติดไม่ทน​  ต้นไม้ที่ให้รสขม​ ฝาด และต้นที่มียางมักจะติดได้ดีกว่า​ สุดท้ายคำตอบที่ดีที่สุดคือการทดลองด้วยตัวเอง

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้

1.น้ำสนิม ใช้เหล็กที่เป็นสนิม เช่น ตะปู ใส่ลงในน้ำทิ้งไว้สัก 2-3 วันเป็นอย่างน้อย ยิ่งนานยิ่งเข้มข้น

2.น้ำส้มสายชู

3.ผ้าฝ้าย ที่ย้อมด้วยต้ลูกต้นก้างปลา

4.พลาสติก

5.เชือกสำหรับมัด

6.ใบไม้สำหรับการพิมพ์ ครั้งนี้ใช้ใบกระท้อนแก่ที่เปลี่ยนเป็นสีแดง ใบต้นตะขบ และใบไม้ที่มีลูกอยู่ใต้ใบเล็กๆ (ไม่รู้จริงๆว่าเจ้าต้นนี้ชื่ออะไร ขอเรียกว่าต้นไม้ข้างทางก็แล้วกัน)ใบขนุน

ต้นก้างปลา

ใบกระท้อนให้สีส้มถึงน้ำตาล

ใบขนุนให้สีเหลือง

ใบตะขบ

7.ถุงมือ

Step 1​ เตรียมผ้า

นำผ้าที่จะย้อม(ย้ำต้องเป็นผ้าที่ทำจากในธรรมชาติ)​ไปซักให้สะอาด​ ผึ่งให้แห้ง แต่ครั้งนี้ผู้เขียนใช้ผ้าที่ผ่านการย้อมจากต้นลูกก้างปลา

Step 2

นำไปแช่ในในน้ำที่ผสมสารส้ม(อัตราส่วน1ช้อนโต๊ะต่อน้ำ​ 2​ลิตร บางคนใช้สารส้มน้ำหนักเท่ากับ 10-15%  ของผ้า )​นานอย่างน้อย​ครึ่ง ​ชั่วโมง

Step 3

นำไปไม้ไปใช่พิมพ์ชุบในน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูอัตราส่วน น้ำ 2 ส่วน น้ำส้มสายชู 1 ส่วน แล้วจึงนำไปแช่ในน้ำเหล็กประมาณ 10 นาที

Step 4

นำผ้าฝ้ายที่ย้อมด้วยลูกข้างทาง สีฟ้าอ่อน ชุบน้ำที่ผสมส้ำส้มสายฃูอัตราส่วนน้ำ 2 ส่วน น้ำส้มสายชู

Step 5

นำใบไม้ที่แช่น้ำเหล็กขึ้นมาสะบัดน้ำออกให้หมด แล้วนำไปวางบนผ้า จากนั้นนำพลาสติกมาคลุมทับเพื่อกันไม่ให้สีของใบไม้แผ่กระจายไปเปรอะผ้าส่วนไม่ต้องการ แล้วมันให้แน่น ให้ใบไม้แนบสนิทกับผ้ามากที่สุด

 

Step 6

นำไปนึ่ง ถ้านึ่งด้วยเตาแก๊ส ใช้ไฟระดับอ่อนสุด เป็นเวลา 1.5-2 ชั่วโมง ทิ้งไว้จนเย็นจึงค่อยแกะ และยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไหร่ สีก็ยิ่งติดมากและทนยิ่งขึ้น ผู้เขียนทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน

9

ติดตามผลงานได้ที่เพจ Eco print Na Na style by wimolwal

You can follow up on the page : Eco print Na Na style by wimolwal

https://www.facebook.com/nanastylebymon

You may also like