พฤกษา ปรับแผนรับเศรษฐกิจขาลง ลดการเปิดโครงการใหม่จาก 55 โครงการเหลือ 40 โครงการ เป้ายอดขายเหลือ 50,000 ล้านบาท รายได้ 45,000 ล้าน วอนรัฐผ่อนปรนมาตรการ LTV พร้อมออกมาตรการกระตุ้นด้วยการลดค่าภาษี การโอน การจดจำนอง
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย อุตสาหกรรมท่องเที่ยวชะลอตัว ค่าเงินบาทแข็งตัว หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง เกิดภัยแล้งในภาคอีสาน และค่าแรงที่รัฐบาลจะต้องมีการปรับขึ้นอีก ทำให้บริษัทต้อง ปรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2562 จากเดิมที่ตั้งไว้ 55 โครงการ รวมมูลค่า 68,100 ล้านบาท เหลือ 40 โครงการ มูลค่า 47,444 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 14 โครงการ อีก 26 โครงการที่จะเปิดครึ่งปีหลัง รวมมูลค่ากว่า 26,000 ล้านบาท โดยจะเปิดช่วงไตรมาส 3 อีก 18 โครงการ รวมมูลค่า 18,683 ล้านบาท เป็น ทาวน์เฮ้าส์ 11 โครงการ บ้านเดี่ยว 4 โครงการ คอนโดมิเนียม 3 โครงการ ไตรมาส 4 จะเปิดอีก 8 โดรงการ รวมมูลค่า 8,269 ล้านบาท เป็นทาวน์เฮ้าส์ 5 โครงการ บ้านเดี่ยว 2 โครงการ คอนโดมิเนียม 1 โครงการ
การปรับลดจำนวนโครงการเปิดใหม่ ส่งผลให้ต้องปรับเป้ายอดขายลงจาก 54,000 ล้านบาท เหลือ 50,000 ล้านบาท เป้ารายได้จาก 47,000 ล้านบาท เหลือ 45,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำยอดขายได้แล้ว 23,368 ล้านบาท คิดเป็น 46.7 % ของเป้า รายได้ครึ่งปีแรกทำได้ 19,662 ล้านบาท คิดเป็น 43.7 %
ส่วนยอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2562 มีทั้งหมด 36,938 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 17,435 ล้านบาท
ด้านภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลครึ่งปีแรกมีมูลค่าอยู่ที่ 200,650 ล้านบาท เติบโตลดลงจากปีก่อนถึง 13% ขณะที่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเดือน เม.ย – พ.ค. ที่ผ่านมามียอดโอนอยู่ที่ 41,906 ล้านบาท ลดลงถึง 24% ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลาดเกิดการชะลอตัวลง จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ ผ่อนปรนนโยบายกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย LTV ในส่วนของผู้กู้ร่วม เมื่อต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองก็จะเข้าข่ายสัญญา 2 ทั้งที่ปัจจุบันการซื้อบ้านหลังที่ 2 ถือเป็นเรื่องปกติ เป็นการซื้อไว้เพื่อการปล่อยเช่า เก็บรายได้ไว้กินยามแก่ หรือเก็บไว้ให้ลูกหลาน ซึ่งดีกว่าการถือเงินสดที่อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก หากแบงก์ชาติยอมผ่อนปรนหรือยกเลิก LTV และรัฐบาลออกมาตรการช่วยกระตุ้นด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง จะช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับแผนการดำเนินงานของพฤกษาในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนปรับกลยุทธ์ให้แข็งแกร่งเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดและสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดย โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นกลยุทธ์ด้านการขายเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็น Real Demand ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านเพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ผนวกกับการใช้กลยุทธ์การขายแบบครบวงจรผ่าน Sales Excellence อีกทั้งได้มีการวิเคราะห์ จัดการฐานข้อมูลลูกค้าและผู้ที่สนใจซื้อบ้าน (AI Machine Learning) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มีการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถช่วยให้บริษัทฯ บรรลุตามเป้าหมายที่ยอดขาย 50,000 ล้านบาท และรายได้ 45,000 ล้านบาท ตามที่ตั้งไว้ โดยในช่วงครึ่งปีแรกได้บริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2562 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท