ประกันภัยไทยมอบ Smartwatch เพื่อดูแลลูกค้าประกันสุขภาพได้แบบ Real-Time พร้อม รับส่วนลดเบี้ยประกันทุกเดือน สูงสุดถึง 40%
นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ล่าสุดได้เปิดตัวเวอรชั่นใหม่ “ALL NEW ON-OFF INSURANCE 2019” ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้รถจริงจากทั่วประเทศเป็นอย่างดี ถึงความพึงพอใจและประทับใจ นวัตกรรมประกันรถเปิดปิดรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้รถสามารถประหยัดค่าเบี้ยได้สูงสุดถึง 40% (Personalized Product)
ด้วยความสำเร็จของประกันรถเปิดปิด และเสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการ จึงเป็นแรงผลักดันให้บริษัทฯ ประยุกต์ให้เกิดนวัตกรรม InsurTech ใหม่ที่พร้อม Disrupt การประกันภัยรูปแบบเดิม และตอบโจทย์การใช้ชีวิตอิสระที่เลือกได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการพลิกโฉมประกันรถยนต์ทั่วไปแล้ว บริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของประกันสุขภาพ ด้วยการสร้างผลิตภัณฑ์และการบริการประกันสุขภาพรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้ให้เพียงความคุ้มครอง หรือเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคิดถึงยามเจ็บป่วยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่พร้อมผลักดันและเป็นตัวช่วยที่สำคัญให้ผู้ใช้บริการมีสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน โดยประกันสุขภาพ Thaivivat Active Health มีจุดเด่นคือ
1) ความคุ้มครองเรื่องประกันสุขภาพที่ครอบคลุมกว่า วงเงินสูงสุดถึง 1 ล้านบาทต่อปี
- ผู้ป่วยใน (IPD): จ่ายตามจริงไม่มีวงเงินจำกัดสำหรับแต่ละการรักษาใช้ได้สูงสุดถึงความคุ้มครองตามทุนประกัน พร้อมความคุ้มครองค่าห้องผู้ป่วยปกติสูงสุดถึง 10,000 บาท/วัน
- ผู้ป่วยนอก (OPD): ให้ค่ารักษาผู้ป่วยนอกสูงสุดถึง 3,000 บาท/ครั้ง สูงสุดถึง 30 ครั้งต่อปี
- อุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA): ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุทั่วโลก พร้อมทุนประกันจากการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรจากอุบัติเหตุ สูงสุดถึง 200,000 บาท
- กีฬาอันตราย: ให้ความคุ้มครองค่ารักษาการบาดเจ็บจากการเล่นหรือแข่งกีฬาอันตราย
2) มอบ Smart Watch: Garmin หรือ Fitbit มูลค่าถึง 7,990 บาท: ประกันภัยสุขภาพเจ้าแรกที่มอบ Smart Watch แบรนด์ชั้นนำให้กับผู้ใช้บริการประกันสุขภาพ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดเพิ่มเติม และยังได้นำเทคโนโลยี Wearables มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการนำก้าวเดิน และอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) มาเป็นเกณฑ์วัดผลการออกกำลังกาย ให้มีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในโซน Cardio เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้แก่ผู้ใช้บริการ
3) ยิ่งออกกำลังกายเบี้ยยิ่งลด ทุกเดือน สูงสุดถึง 40%: เบี้ยประกันสุขภาพ Thaivivat Active Health คิดเป็นรายเดือน โดยไม่ต้องเหมาจ่าย โดยมีจุดเด่นคือแต่ละเดือนผู้ใช้บริการสามารถออกกำลังเพื่อรับส่วนลดเบี้ยได้สูงสุด 40% ทำให้เบี้ยเริ่มต้นเพียง 1,700 บาท/เดือน
4) กิจกรรมเพื่อสุขภาพและสิทธิพิเศษทุกสัปดาห์ : เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถ Active ในทุก Lifestyle บริษัทฯ จึงจัดหาแบรนด์ชั้นนำด้านสุขภาพกว่า 17 แห่งเพื่อมอบสิทธิประโยชน์ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย อาหาร โภชนาการ และกิจกรรม Active Lifestyle อื่นๆ นอกเหนือจากส่วนลดค่าเบี้ยในทุกสัปดาห์ อาทิ กิจกรรม Adventure คลาสพิเศษจากยิมเพื่อสุขภาพต่างๆ ส่วนลดอาหารและโภชนาการ นอกจากนี้ผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนร่วมคลาสการออกกำลังกายพิเศษในทุกสัปดาห์ กว่า 100 ที่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและกิจกรรมสุด Exclusive ทุกเดือนที่เป็นการสร้าง Community เพื่อร่วมแชร์ประสบการณ์และสนุกเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพไปด้วยกัน
5) Application Thaivivat Health ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการเพื่อสุขภาพ : นอกจากสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มอบให้แก่ผู้ใช้บริการแล้ว ยังมีการปรับและพัฒนาแอปพลิเคชัน “Thaivivat Health” ให้เข้ากับ Lifestyle และ Active ไปพร้อมกัน โดยผู้ใช้บริการสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ได้ทั้ง App Store และ Play Store app โดยแอปฯ จะสามารถแจ้งสถานะความ Active ของผู้ใช้บริการแบบ Real Time เพื่อให้ดูว่าถึงเป้าหมายในการดูแลสุขภาพครบในแต่ละสัปดาห์เพื่อรับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน รวมถึงดูโปรโมชั่น หรือกิจกรรมล่าสุดที่มีการอัพเดทตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมี Gamification ให้เกิด Community ให้ผู้ใช้บริการได้สนุกกับเพื่อนๆเพื่อดู Ranking ความ ACTIVE ของตนเองได้ และการบริการด้านข้อมูลต่างๆ อาทิ ฟังก์ชั่นการค้นหาสถานพยาพยาล และ Digital Care Card ผ่านแอปฯ เพื่อแสดงกับสถานพยาบาลที่ใช้บริการ
นอกจากนี้ประกันสุขภาพ Thaivivat Active Health ยังได้เพิ่มProgram Active Bonus ซึ่งเป็นแคมเปญที่ทำให้ผู้ใช้บริการมี ทางเลือกหลากหลายมากขึ้นในการออกกำลังกายเพื่อดูแลสุขภาพของตนเอง โดยActive Bonus Points สะสมคะแนนเลือกรับส่วนลดค่าเบี้ยสูงสุด 40% ทุกเดือน : เพราะการออกกำลังกายที่ดีไม่ใช่แค่เพียง Cardio เท่านั้นแต่สามารถ Training เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ได้ ดังนั้นการมีกิจกรรมที่หลากหลายจะช่วยให้การออกกำลังเป็นเรื่องที่สนุกและได้สุขภาพไปพร้อมๆกัน ซึ่งบริษัทได้เห็นถึงความสำคัญจึงมีการสร้างกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรเพื่อสุขภาพ โดย Scan QR Code หลังจากร่วมกิจกรรม และรับ Bonus Point เพื่อให้ผู้ใช้บริการออกกำลังกายได้ตามเป้าหมายในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งสามารถทำให้ลดเบี้ยได้สูงสุดถึง 40%
อย่างไรก็ตามในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีจุดสำคัญคือการสร้างนวัตกรรมที่ใช้ได้จริงกับคนไทย เพื่อสร้างทางเลือกที่ดีให้กับผู้บริโภค และเน้นผู้บริโภคเป็นจุดศูนย์กลาง (Customer Centric) รวมถึงให้การประกันภัยเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย และจะยังคงพัฒนาเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับผู้บริโภค และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอนตามวิสัยทัศน์ “คิดเผื่อ เพื่อทุกชีวิต” ทั้งนี้ด้าน อาเล็ก ธีรเดช ในฐานะพรีเซนเตอร์ และตัวแทนคนรุ่นใหม่ ได้เชิญชวนให้คนไทยหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี ไปพร้อมกับการตั้งเป้าหมายสูงสุดของชีวิต สู่ชีวิตอิสระที่เราเลือกได้ตาม Lifestyle ของตัวเอง เลือกในสิ่งที่ใช่แล้วเราจะสนุกกับการใช้ชีวิต