พฤกษา เผยกลยุทธ์การสร้างรายได้ช่วงตลาดอสังหาฯทรงกับทรุดในปี 63 ตั้งทีมเฉพาะกิจโฟกัสไปที่การช่วยลูกค้ากู้แบงก์ให้ผ่าน เผยปีที่ผ่านมามีถึง 39% ตั้งเป้ายอดขาย 38,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 40,000 ล้านบาท ด้วยการเปิดใหม่อีก 30 โครงการ มูลค่า 36,000 ล้านบาท
นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัว แต่ด้วยตลาดที่มีมูลค่าถึง 400,000 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องต้องท้าทายและฟันฝ่า โดยปีนี้บริษัทตี้งเป้ายอดขายไว้ที่ 38,000 ล้านบาท รายได้ 40,000 ล้านบาท ด้วยการเปิดโครงการใหม่ 30 โครงการ มูลค่า 36,000 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮ้าส์ 18 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ คอนโดมิเนียมกลุ่มแวลู 4 โครงการ คอนโดฯกลุ่มพรีเมี่ยม 2 โครงการ
ปีนี้สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแต่ทรงกับทรุด ดังนั้นกลยุทธ์ที่บริษัทจะใช้ในการสร้างรายได้ในปี้นี้คือ การตั้งทีมเฉพาะกิจ ที่โฟกัสในเรื่องของการช่วยลูกค้าในการกู้แบงก์ ซึ่งปีที่ผ่านมาอัตราการกู้ไม่ผ่านอยู่ที่ 39 % หรือเท่ากับมีผู้กู้ไม่ผ่านคิดเป็นเงินถึง 9 พันล้านบาท ดังนั้นเราต้องพยายามดึงการซื้อของกลุ่มนี้กลับมาให้ได้มากที่สุด โดยขณะบริษัทมีรายชื่อลูกค้าในกลุ่ม Win Back ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการซื้อแต่ยังหาสินค้าที่ถูกใจไม่ได้ กลุ่มที่ยกเลิก และกู้ไม่ผ่านอยู่ 175,000 รายชื่อ
บริษัทจะต้องพัฒนาสินค้ามาตอบสนองกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ โดยตามแผนบริษัทจะพยายามรักษาตลาดเดิม คือทาวน์เฮ้าส์ ราคาน้อยกว่า 3 ล้านบาท พร้อมขยายไปยัง 3-5 ล้านบาท บ้านเดี่ยวฐานเดิมอยู่ที่ 3-5 ล้านบาท ขยายยังระดับราคา 5-15 ล้านบาท พร้อมออกแบบสินค้า ฟังชั่น และอุปกรณ์อิเลคทรอนิค(IOT) เข้ามาเสริม เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อีกทั้งในส่วนของคอนโดมิเนียมในครึ่งปีแรกยังเน้นการขายสินค้าที่มีอยู่ในสต็อก โดยขณะนี้บริษัทยังมีสินค้าคงเหลืออีก 7,739 คิดเป็นมูลค่า 25,100 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮ้าส์ 3,423 ยูนิต มูลค่า 10,800 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 833 ยูนิต มูลค่า 5,200 ล้านบาท คอนโด-แวลู 3,044 ยูนิต มูลค่า 7,300 ล้านบาท คอนโด-พรีเมียม 439 ยูนิต มูลค่า 1,800 ล้านบาท โดยมุ่งการขายไปที่กลุ่มเรียลดีมานด์ พร้อมยกระดับการก่อสร้าง เปิดโครงการในทำเลที่มีศักยภาพ ในช่วงครึ่งปีหลัง และควบคุมการเงิน บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อพยายามรักษาระดับกำไรให้อยู่ที่ 35 %
ส่วนผลประกอบการในปีที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจในภาวะที่ตลาดชะลอตัวอย่างรุนแรง โดยในช่วงไตรมาส 4 อัตราการขายอยู่ที่ 24 % ในขณะที่ปีก่อนๆการขายอยู่ที่มากกว่า 45% เมื่อรวมทั้งปีอัตราการขายอยู่ที่ 34 % โดยปี 2562 บริษัทฯสามารถทำยอดขายได้ 35,601 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 30 % แบ่งเป็นยอดขายจากทาวน์เฮ้าส์ 15,990 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 34 % บ้านเดี่ยว 6,447 ล้านบาท ลดลง 34 % คอนโด-แวลู 6,180 ล้านบาท ลดลง 42 % ในขณะที่คอนโด-พรีเมียม 6,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%
ด้านรายได้ ทำได้ 39,885 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่แล้ว 11.4 % แบ่งเป็นรายได้จากทาวน์เฮ้าส์ 17,880 ล้านบาท ลดลง 21 % บ้านเดี่ยว 7,783 ล้านบาท ลดลง 13 % คอนโด-แวลู 9,724 ล้านบาท ลดลง 16 % คอนโด-พรีเมี่ยม 4,413 เพิ่มขึ้น 137 % และที่ดิน 85 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจาก บริษัทฯมีการเปิดโครงการใหม่เพียง 36 โครงการ จากแผนที่จะเปิด 55 โครงการ
อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ 29,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 10,900 ล้านบาท ปี 2564 จำนวน 8,800 ล้านบาท ปี 2565 อีก 9,300 ล้านบาท
นางสุพัตรา กล่าวต่อไปว่า จะเร่งเพิ่มยอดขายของพรีคาสท์ ให้สามารถสร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยการปรับโรงงานพรีคาสท์ให้เป็น Business Unit เพื่อขายให้กับผู้ประกอบการรายอื่น