แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า ด้วย 3 กลยุทธ์ BETTER PEOPLE, BETTER LIFESTYLE, BETTER ECONOMY เริ่มจาก BETTER PEOPLE ความมั่นใจด้านสุขอนามัยความปลอดภัยเต็มรูปแบบด้วยการขานรับนโยบายภาครัฐ นำร่องผลักดันโครงการในเครือให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Safety and Health Administration (SHA) ควบคู่กับการวางแผนแม่บท “The Core 5 for Safety and Clean” นำมาตรการด้านสุขอนามัยเข้มข้นมาใช้ในการดูแลพนักงาน ผู้เช่า และลูกค้าผู้ใช้บริการของโครงการ เสริมด้วย BETTER LIFESTYLE กลยุทธ์การใช้ความโดดเด่นของพอร์ทโฟลิโอที่หลากหลายในการตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบ New Normal ด้วยประสบการณ์ด้านการบริการรูปแบบใหม่ “AWC INFINITE LIFESTYLE” ที่คำนึงถึงสุขอนามัย ความปลอดภัยภายใต้มาตรฐานการให้บริการระดับโลก ตอบสนองความต้องการลูกค้าในไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ที่ยืดหยุ่น ออกแบบได้ตามต้องการ
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “เหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนทั่วโลก จนเกิดเป็นความปกติรูปแบบใหม่ (New Normal) ที่เกิดขึ้นในทุกๆ อุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด AWC พร้อมอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับตัว สร้างมาตรฐานชี้วัดใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศน์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ควบคู่กับการเสริมศักยภาพให้ธุรกิจในเครือหลังวิกฤตโควิด-19 จบลง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทย และวางรากฐานของประเทศชาติให้แข็งแกร่งซึ่งประกอบด้วย
BETTER PEOPLE (สุขภาพที่ดีกว่าเดิม) การสร้างความมั่นใจด้านสุขอนามัยให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในโครงการต่างๆ ในเครือของ AWC ด้วยการเข้าร่วมโครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA) ซึ่งเป็นการสนองนโยบายด้านการท่องเที่ยวของภาครัฐ ด้วยการผลักดันธุรกิจในเครือกว่า 29 โครงการ ครอบคลุมทั้งกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail) และอาคารสำนักงาน (Office Building) ให้เป็นไปตามมาตรฐาน Safety & Health Administration (SHA) ที่ถือเป็นตราสัญลักษณ์ในการรับรองคุณภาพสร้างความมั่นใจด้านสุขอนามัย และมาตรฐานการให้บริการ แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยล่าสุดโรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล ยังถือเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับรองมาตรฐาน Safety & Health Administration (SHA) ซึ่งบ่งบอกถึงความพร้อมและศักยภาพของแอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ในการดำเนินธุรกิจ และขับเคลื่อนธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในปัจจุบัน
และเพื่อเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับมาตรฐาน SHA สร้างความมั่นใจด้านสุขอนามัยเต็มรูปแบบด้วย แผนแม่บท “The Core 5 for Safety and Clean” เพื่อการดูแลทั้งพนักงาน ผู้เช่า และลูกค้าผู้ใช้บริการในโครงการต่าง ๆ ของ AWC ประกอบด้วย
– Secure Screening การคัดกรอง ตั้งแต่การตรวจวัดอุณหภูมิทุกคนที่เข้ามาในโครงการ และสแกนแอพพลิเคชั่นไทยชนะก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้ง
– Social Distancing การเว้นระยะห่างและบริหารจัดการปริมาณการรวมกลุ่มของคน
– Super Hygienic Cleaning การให้ความสำคัญกับสุขอนามัย ทั้งการทำความสะอาดอุปกรณ์พื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยทุกชั่วโมง และพื้นที่สาธารณะทุก 2 ชั่วโมง
– Support Care Service การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องด้านสุขอนามัยแก่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
– Safety Trace การจัดเก็บฐานข้อมูลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการติดตามผล โดยนอกจากการคัดกรองผู้ใช้บริการผ่านแอพไทยชนะ ทางบริษัทยังพัฒนาแอพพลิเคชั่น AWC เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าที่มาใช้บริการ ซึ่งมาตรการด้านสุขอนามัยเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อการสร้างศักยภาพให้กับธุรกิจหลังเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
BETTER LIFESTYLE (คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม) นำความโดดเด่นของพอร์ทโฟลิโอที่หลากหลายทั้งกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ (Retail & Commercial) และความหลากหลายของที่ตั้งโครงการที่กระจายอยู่ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ของกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย มาใช้ในการตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบ New Normal ให้กับกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวอย่างครบวงจร โดยล่าสุดเตรียมเปิดตัวบริการใหม่ “AWC INFINITE LIFESTYLE” ออกแบบไลฟ์สไตล์ที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างไร้ขีดจำกัด สร้างความอิสระและยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตที่ลูกค้าสามารถออกแบบการใช้ชีวิตทั้งการทำงานและการพักผ่อนด้วยสินค้าและบริการที่ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องสุขอนามัยความปลอดภัยและคุณภาพระดับพรีเมี่ยมจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมในเครือ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้บริการหลายหลายที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ ทั้งในด้านสุขภาพและความงาม โปรแกรมรีทรีทเพื่อการผ่อนคลาย สปา ฟิตเนส อาหารและเครื่องดื่ม และห้องประชุมสัมมนา ศูนย์ธุรกิจ ภายใต้มาตรฐานโรงแรมระดับโลก เลือกได้ตามต้องการในรูปแบบของแพคเกจและกำหนดได้ตามระยะเวลาที่ต้องการ และในเดือนมิถุนายนนี้ “AWC INFINITE LIFESTYLE” พร้อมจัดสรรโปรแกรมพิเศษสุดเพื่อเป็นของขวัญแด่คนไทยและโปรโมทไทยเที่ยวไทยในประเทศด้วย Bangkok Holidays Lifestyle, a Gift of Happiness แพคเกจรีทรีทพรีเมี่ยมเพื่อเป็นของขวัญสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ให้ได้สัมผัสประสบการณ์เข้าพักโรงแรมระดับห้าดาว และเพลิดเพลินไปกับอาหารจากเชฟมือรางวัล เพื่อการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ด้วยการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างสมบูรณ์แบบ ในโรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล และโรงแรม แบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ ด้วยข้อเสนอราคาห้องพักไม่รวมอาหารเช้าเพียง 1,000++ บาทต่อคืน (AWC จะดูแลส่วนต่างราคาห้องพักตามข้อเสนอจากราคาปกติ 5,000++ บาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ) โดยผู้เข้าพักจะได้รับสิทธิ์ส่วนลดพิเศษ 50% ในห้องอาหารที่เข้าร่วมและสปาของโรงแรม ผู้สนใจสามารถจองห้องพักได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2563 และสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์ในการจองตรงผ่านโทรศัพท์ เฟสบุ๊ก และอีเมล์ของโรงแรมเท่านั้น และสามารถเข้าพักได้ไม่เกิน 5 คืนต่อการจอง
BETTER ECONOMY (เศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม) กลับมาเปิดให้บริการธุรกิจในเครือเต็มรูปแบบหลังปิดให้บริการตามคำสั่งของภาครัฐ ทั้งกลุ่มธุรกิจประกอบกิจการการค้า (Retail) ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2563 และกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ที่ทยอยกลับมาเปิดให้บริการ ที่มีศักยภาพความพร้อมในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในการรองรับตลาดท่องเที่ยวในประเทศที่กำลังฟื้นตัว เช่น โรงแรม หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ 18 พฤษภาคม 2563 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในช่วงสุดสัปดาห์สูงกว่า 80% ขณะเดียวกัน ยังคงมีแผนการพัฒนาและปรับปรุงยกระดับโครงการต่างๆ เพื่อเป็น Top destination ด้านการท่องเที่ยว เช่น เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ มีแผนเริ่มปิดปรับปรุงโครงการตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เพื่อพัฒนากลยุทธ์และเตรียมความพร้อมในการรับรองนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ทั้งระบบความปลอดภัย ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ตลอดจนพัฒนาจุดดึงดูดและสร้างประสบการณ์ประทับใจใหม่ๆ แก่ลูกค้าและนักท่องเที่ยว รวมทั้งแผนการเดินหน้าพัฒนาโครงการต่างๆ และเตรียมความพร้อมการเปิดโครงการต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมาสู่ประเทศไทย นอกจากนี้ AWC พร้อมเปิดกว้างด้านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในโครงการต่างๆ เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจท่องเที่ยวและร่วมขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจและสังคมองค์รวมให้สามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“เราคาดว่าจากการดำเนินการ 3 กลยุทธ์สู่อนาคตที่ดีกว่า จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า นักท่องเที่ยว และผู้เข้ามาใช้บริการโครงการต่างๆ ของบริษัท สอดคล้องกับรูปแบบและวิถีการดำเนินชีวิตแบบใหม่ รวมทั้งเป็นการช่วยสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้ธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศในระยะยาว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยสามารถกลับมาเป็นปกติได้โดยเร็วและเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป” นางวัลลภากล่าว