Home Property Newsสิงห์ เอสเตท ขายหุ้น เนอวานา ไดอิ ปลดล็อคพัฒนาบ้านเดี่ยว

สิงห์ เอสเตท ขายหุ้น เนอวานา ไดอิ ปลดล็อคพัฒนาบ้านเดี่ยว

by Outaboxes Editorial

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ขายหุ้นทั้งหมดใน บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ “NVD” คิดเป็น 51.56% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ NVD ส่งผลดีให้ S สามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในทุกรูปแบบได้ด้วยตนเอง สอดคล้องดีมานด์แข็งแกร่งท่ามกลางวิกฤติ มั่นใจเติบโตต่อเนื่อง

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” กล่าวว่า มาตรการล็อคดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลกเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19  ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ จนลุกลามเป็นวิกฤติทางเศรษฐกิจทั่วโลกในที่สุด อย่างไรก็ดี ยอดขายสะสมโครงการบ้านเดี่ยว และทาว์นเฮาส์ 9 เดือนแรกของผู้นำในตลาดอสังหาริมทรัพย์เติบโตได้ถึง 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับการหดตัวของผลการดำเนินงานในหลายธุรกิจ ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของธุรกิจที่พักอาศัยแนวราบที่ยังเติบโตได้ท่ามกลางวิกฤติ ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินธุรกิจนี้ส่วนใหญ่ของ S เป็นการดำเนินธุรกิจผ่านการถือหุ้น 51.56% ในบริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) หรือ “NVD”

คณะกรรมการบริษัทมีมติในวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ให้บริษัทลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างบริษัทและกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน NVD เพื่อศึกษารายละเอียดและความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นที่ทั้งสองฝ่ายถืออยู่ใน NVD โดยคู่สัญญาได้ดำเนินการตามเงื่อนไขของ MOU และได้ข้อสรุปในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ว่า สิงห์ เอสเตทจะเป็นผู้ขายหุ้นสามัญใน NVD จำนวน 711,855,320 หุ้น คิดเป็น 51.56% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ NVD คิดเป็นเงินจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,793,875,406.40 บาท ให้แก่กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ NVD และคาดว่าจะทำการซื้อขายหุ้นดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563  โดยภายหลังจากการซื้อขายหุ้นสามัญใน NVD ดังกล่าวแล้ว NVD จะสิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ส่งผลให้ สิงห์ เอสเตท สามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทเองโดยปราศจากเงื่อนไขป้องกันการดำเนินธุรกิจทับซ้อนระหว่างบริษัท และ NVD ที่ได้เคยกำหนดไว้

สิงห์ เอสเตท เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี โครงการที่อยู่อาศัยในปัจจุบันประกอบด้วยโครงการคอนโดมิเนียม 4 แห่ง ได้แก่ โครงการ ดิ เอส อโศก, ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์, ดิ เอส สุขุมวิท 36 และ ดิ เอ็กซ์โทร ตลอดจนโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 250 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส และยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายพอร์ตการลงทุนในธุรกิจที่พักอาศัย การขายหุ้น NVD ในครั้งนี้ช่วยปลดล็อคให้ สิงห์ เอสเตท สามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของบริษัทได้อย่างเต็มตัว เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ปัจจุบันอย่าง ดิ เอส และ โครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการมีสัดส่วนรายได้จากที่อยู่อาศัยแนวราบต่อแนวสูงที่ระดับ 60:40 และหนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่องของพอร์ตธุรกิจที่อยู่อาศัยของบริษัท

“การขายหุ้นใน NVD เพื่อปลดล็อคข้อจำกัดบางประการในการพัฒนาธุรกิจของบริษัท นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจที่พักอาศัยให้ครอบคลุมทั้งในด้านของสินค้าและเซกเมนท์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้า ความผันผวนจากสภาวะตลาด และผลกระทบทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเสริมสร้างการเติบโตของบริษัทที่ยั่งยืน และส่งมอบผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว”

 

 

 

You may also like