เดินหน้าขยายฐานลูกค้าภาคตะวันออก ตั้งเป้าร้านค้าวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่ง 200 ร้านค้า
“BAANDY” (บานดี้) แอปพลิเคชัน ซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ตกแต่ง ฝีมือคนไทย เดินหน้าตามแผนงาน ลุยขยายฐานลูกค้าภาคตะวันออก พัฒนาแอปพลิเคชันโฉมใหม่ เพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและประเภทสินค้าวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร ตอบโจทย์การใช้งานต่อกลุ่มเป้าหมาย ตั้งเป้าร้านค้าเพิ่ม 200 ร้านค้า
นายณัฏฐ์นวัต พันธุกรกวีวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ บานดี้ จำกัด ผู้พัฒนา BAANDY แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มซื้อ-ขายวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวแอปพลิเคชันเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเน้นกลยุทธ์ทำการตลาดควบคู่กับการประชาสัมพันธ์เดินสายให้ข้อมูลกับร้านค้าวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากร้านค้าในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้มีกระแสตอบรับที่ดี ปัจจุบันมีร้านค้าวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านร่วมเปิดร้านค้าใน BAANDY App กว่า 500 ร้านค้า
สำหรับในช่วงไตรมาส 2 บริษัทเร่งเดินหน้าตามแผนงาน มุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าในเขตภาคตะวันออก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากงานโครงการก่อสร้างภาครัฐ นโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC ผลักดันให้เกิดการลงทุนก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจคขนาดใหญ่ สร้างความเจริญเติบโตของเมือง อีกทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์มีการลงทุนในโครงการใหม่ จากความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงมีเป้าหมายเข้าถึงกลุ่มร้านค้าวัสดุก่อสร้างในเขตภาคตะวันออก เข้าร่วมเปิดร้านค้าไม่ต่ำกว่า 200 ร้านค้าภายในเดือน มิ.ย. นี้ และจะขยายฐานลูกค้าภาคเหนือ และภาคตะวันตก ในลำดับต่อไป
นอกจากนี้บริษัทมองเห็นโอกาส จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ต้องการความรวดเร็ว -สะดวกสบาย จึงพัฒนาแอปพลิชันให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายและครบวงจรมากขึ้น ได้แก่ รูปแบบการเข้าถึงสินค้า การค้นหา รวมถึงการชำระค่าสินค้าผ่านช่องทางคิวอาร์โค้ด ที่สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้งานของผู้ซื้อและผู้ขายที่เริ่มคุ้นเคยกับการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มนี้ จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐ อีกทั้ง เพิ่มประเภทของสินค้าให้มีความหลากหลายและครอบคลุมต่อความต้องการอาทิ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เป็นต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และเป็นศูนย์รวมเรื่องบ้านได้อย่างครบครัน รวมทั้งบริการการจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วโดยร้านค้าวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ และผู้นำด้านการจัดส่งสินค้า เช่น ไปรษณีย์ไทย Best Express J&T Express และอื่นๆ
“ทั้งนี้บริษัท มีการศึกษาและพัฒนากลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ซื้อได้รับความพึงพอใจและคุ้มค่าสูงสุด พร้อมกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้า จัดเตรียมระบบช่วยการบริหารสินค้าภายในร้าน และโปรโมชั่นที่น่าสนใจไว้มากมาย โดยบริษัท มั่นใจว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เข้าร่วมเปิดร้านค้าในช่วงครึ่งปีแรกรวมที่ 800 ร้านค้า และครอบคลุมทุกภาคทั่วประเทศภายในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ร้านค้า มีรายได้ 1,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายณัฏฐ์นวัต กล่าว