Home Property Newsเสนาฯเสริมความแข็งแกร่งผนึก ฮันคิว ฮันชินฯตั้ง เสนา เอชเอชพี

เสนาฯเสริมความแข็งแกร่งผนึก ฮันคิว ฮันชินฯตั้ง เสนา เอชเอชพี

by Outaboxes Editorial

ภาวะเศรษฐกิจกระแทกอสังหาฯอ่วม เสนาฯหดเป้ายอดขาย ลดโครงการเปิดใหม่ แจงพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ไม่ซื้อคอนโดฯช่วงเปิดพรีเซล หันมาซื้อช่วงก่อสร้างเสร็จแล้ว เตือนผู้ประกอบการต้องระวังเรื่องกระแสเงินสด พร้อมเดินหน้าตั้งบริษัทร่วมทุน เสนา เอชเอชพี กับบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) SENAกล่าวว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องพึงระวังที่สุดในปัจจุบันคือ กระแสเงินสด หรือเงินทนหมุนเวียน เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ซื้อคอนโดเปลี่ยนไปจากที่เคยซื้อในช่วงที่มีการเปิดพรีเซล มาซื้อในช่วงที่โครงการสร้างเสร็จ  โดยเฉพาะคอนโดฯระดับราคา 3 ล้านลงมา และผู้ซื้อที่ต้องการเปลี่ยนจากการอยู่อพาร์ทเม้น มาซื้อคอนโดมิเนียม  ส่งผลให้ผู้ประกอบการจำต้องมีเงินสดเพื่อใช้ในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ จึงจะเปิดขายได้

จากพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการต้องแก้ปัญหาด้วยการออกเงินบอนด์(ตราสารทางการเงินที่ผู้ซื้อมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และผู้ออกมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยเจ้าหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปกของ ดอกเบี้ย) เพื่อใช้เป็นทุนในการก่อสร้าง แทนการกู้เงินจากสถาบันการเงิน ที่จะปล่อยกู้ก็ต่อเมื่อโครงการคอนโดฯสามารถขายไปได้แล้วระดับหนึ่ง

สำหรับในส่วนของบริษัทเสนาฯ ได้มีการปรับเป้าทั้งในส่วนของยอดขาย และการรับรู้รายได้ ซึ่งคาดว่าจะได้ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ อันเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และการชะลอการเปิดโครงการใหม่ ตามแผนที่ตั้งไว้ 17 โครงการ เหลือเพียง 13 โครงการ อย่างไรก็ตาม เมื่อดูงบการเงินในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แม้รายได้จะลดลง แต่กำไรไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เนื่องจากความพยายามลดค่าใช้จ่ายของบริษัท และค่าใช้จ่ายส่วนกลางของโครงการที่มีผู้เข้ามาอยู่อาศัยได้รับผิดชอบไป

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวต่อไปว่าที่ผ่านมาได้มีการร่วมทุนกับทางบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ คอร์ป แบบ 1 โครงการต่อการจัดตั้ง 1  บริษัท มาตั้งแต่ปี 2559  ล่าสุดได้มีการร่วมทุนบริษัท ฮันคิว ฮันชินฯจัดตั้งบริษัท เสนา เอชเอชพี ด้วยทุนจดทะเบียน 422 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง  โดยความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญของการเติบโต และยังสะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพของกันและกัน ตอกย้ำถึงการร่วมเดินหน้าธุรกิจ พร้อมเป็นพันธมิตรในระยะยาว แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายจากปัจจัยลบ ที่สำคัญยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพใน 3 ด้าน ที่ประกอบด้วย 1. Credibility คือ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้น ความมั่นใจจากความร่วมมือในระยะยาวกับบริษัทระดับนานาชาติ การผสมผสานความร่วมมือ และการทำงานแบบมืออาชีพ 2. Financial คือความมั่นคงในด้านเงินทุน ความเชื่อมั่นในสถานภาพทางการเงิน การบริหารจัดการต้นทุนที่จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงโอกาสทางการเงิน และการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และ 3. Efficiency ที่จะช่วยยกระดับการทำงานให้รวดเร็ว และยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ง่ายต่อการบริหารจัดการ รวมถึงการแลกเปลี่ยนนวัตกรรมความรู้ต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพที่อยู่อาศัยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน

ดร.เกษรา กล่าวย้ำว่า สำหรับเป้าหมายการขยายธุรกิจและสร้างโอกาสในการเติบโต ภายใต้บริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้น  ทางเสนา และ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป  ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยเป็นหลัก ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง และพร้อมพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมครบทุกเซกเม้นท์ และกระจายอยู่ในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยพัฒนาเบื้องต้นไว้ที่ 66 โครงการ รวมมูลค่ารวมประมาณ 83,000 ล้านบาท โดยทุกโครงการยังคงพัฒนาบนแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และคอนโด โลว์คาร์บอน ที่จะเดินหน้าพัฒนา และต่อยอดให้ตอบโจทย์คนไทยมากที่สุด พร้อมผสมผสานเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ จากญี่ปุ่นเพื่อร่วมสร้าง Decarbonized Lifestyle ให้กับลูกบ้าน และสร้างสังคมการใช้ชีวิตที่ยั่งยืนให้กับครอบครัวเสนาทุกคน

ด้าน มร.มาซะฮิโกะ โทดะ กรรมการบริหาร บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยเมื่อมีลง ก็ต้องมีขึ้น และเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น ที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม โดยลงทุนในประเทศไทยสูงสุด คิดเป็น 50 % ของงบทั้งหมด โดยได้เริ่มร่วมทุนกับบริษัท เสนาฯ ไปแล้ว 6,300-6,500 ล้านบาท และได้นำกำไรที่ได้จากการพัฒนาโครงการ ลงทุนต่อไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมลงทุนเพิ่มเติม

สำหรับแผนการลงทุนภายหลังตั้งบริษัท เสนาเอสเอสพี  จะมีการลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่  4-7 โครงการต่อปี

You may also like