BAM พลิกทรัพย์ร้าง เป็นทรัพย์สร้างกำไร พร้อมช่วยกลั่นกรองและปรับสภาพหนี้ (Buffer) เพื่อลดภาระหนี้สถาบันการเงิน ร่วมจับมือ “BKA” ผู้นำธุรกิจบ้านมือสองตกแต่งใหม่ พร้อมทั้งสถาบันการเงิน “UOB” ในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่พันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ ชี้การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความสำเร็จในกลยุทธ์หลักของ BAM ในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจ (MOU) กับ บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (BKA) และ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) (UOB) เพื่อพลิกทรัพย์ร้างเป็นทรัพย์สร้างกำไร
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า BAM ในฐานะที่เป็นผู้บริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดได้ขยายความร่วมมือในการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ที่มีอยู่ถึง 24,000 แห่ง มูลค่า 72,000 ล้านบาท ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และช่วยให้ระบายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่มีทรัพย์เข้ามาเพิ่มในทุกๆปี การร่วมมือกับ BKA และช่วยย่นระยะเวลาในการถือครองทรัพย์จาก 8 ปีเหลือ 4 ปี 2 เดือน โดยเน้นกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคา 5 ล้านบาท ขึ้นไป ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ที่ปัจจุบันสินค้ามีไม่พอกับความต้องการ แม้จะอยู่ในช่วงที่ความต้องการของตลาดจะลดลงก็ตาม โดยในเบื้องต้น BKA จะเริ่มนำทรัพย์ 50-100 หลังคิดเป็นมูลค่า 200-300 ล้านบาทไปรีโนเวทเพื่อขาย โดยคาดว่าเป้าที่จะจัดทำร่วมกับ BKA ภายในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ประมาณกว่า 100 ล้านบาท ขณะเดียวกัน BAM ยังมีหน้าที่ในการช่วยกลั่นกรองและปรับสภาพหนี้ (Buffer) ของลูกหนี้ เพื่อเป็นการลดภาะหนี้ของสถาบันการเงิน และจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อออกมาได้มากขึ้น ซึ่ง UOB จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางการเงินที่พร้อมสนับสนุนโครงการอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับรูปแบบของความร่วมมือระหว่าง BAM และ BKA โดย BAM ให้ BKA ยืมทรัพย์ไปพัฒนาเพื่อขายในเวลา 6 เดือน และต่ออายุทุกๆ 3 เดือน และชำระค่าทรัพย์เมื่อครบ 9 เดือน และทยอยส่งยอดขายอีกทุกๆ 3 เดือน
ความร่วมมือครั้งนี้ ไม่จำกัดเฉพาะ BKA เท่านั้น แต่ BAM พร้อมเปิดประตูให้กับพันธมิตรภาคเอกชนรายอื่นๆ ที่ลงนาม MOU กับ BAM เข้าร่วมโครงการ โดย UOB จะพิจารณาการสนับสนุนทางการเงินแบบ case by case ตามความเหมาะสมของแต่ละดีล “นี่คือก้าวสำคัญในการ Re-Activate ทรัพย์ที่หลับใหล ให้กลายเป็นโอกาสที่จับต้องได้” โดย BAM มุ่งมั่นผลักดันให้ทรัพย์ NPA ไม่ใช่เพียง ‘ภาระ’ แต่กลายเป็น ‘ต้นทุนแห่งโอกาส’ ที่นักลงทุนและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถใช้ต่อยอดได้จริง ซึ่งเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่าง BAM, BKA และ UOB จะช่วยจุดประกายความเป็นไปได้ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งโครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ New Asset Ecosystem ที่เชื่อมโยงผู้ถือทรัพย์ – ผู้พัฒนา – สถาบันการเงิน เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยเปลี่ยนทรัพย์ที่เคยถูกทิ้งร้าง ให้กลับมามีชีวิต สร้างมูลค่า และหมุนเวียนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ
นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA ผู้นำบริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ เปิดเผยว่า การจับมือกับ BAM และ UOB ครั้งนี้ ทำให้เกิดโมเดลใหม่ที่ครบวงจร โดย BAM ในฐานะผู้ที่มีทรัพย์ NPA คุณภาพหลากหลาย พร้อมสำหรับการพัฒนา ขณะที่ BKA เป็นผู้ให้บริการโดยการนำทรัพย์ NPA มาปรับปรุง-ฟื้นฟู-ต่อยอด-พร้อมอยู่ รวมถึงทำการขายอย่างครบวงจร ด้าน UOB มีบทบาทในการสนับสนุนด้านสินเชื่อ ส่งผลให้ BKA จะอยู่ระหว่างกลางการเชื่อมต่อ “ทรัพย์-การพัฒนา-การเงิน” เพื่อให้บ้านมือสองกลายเป็น “บ้านพร้อมอยู่” ที่มีศักยภาพสูง และเพิ่มพอร์ตบ้านในมือให้ครอบคลุม และหลากหลายพื้นที่มากขึ้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการขายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8 เดือนนับตั้งแต่ได้ทรัพย์มาจาด BAM
อีกทั้งยังเป็นการร่วมมือในการสร้างโมเดลใหม่ที่ครบวงจร โดยร่วมกันพัฒนาทรัพย์ที่เคยถูกมองว่า ไม่มีศักยภาพ หรือ ขายยากได้อย่างถูกวิธี ทำให้ทรัพย์รอการขาย สามารถกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อีกครั้ง ทำให้ บ้านมือสองไม่ใช่แค่ทางเลือกสำรอง แต่คือโอกาสใหม่ของตลาด และด้วยจุดแข็งของ BKA ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการปรับปรุงให้บริการบ้านมือสองแบบครบวงจรมาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ทำให้เข้าใจตลาดและสามารถปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ พร้อมรับประกันผลงานหลังโอน ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานการทำงานของเรา และด้วยสถานะในการเป็นบริษัทมหาชนที่ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงให้ความมั่นใจได้ว่า BKA เป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
“การผนึกกำลังร่วมกันในครั้งนี้ เปรียบเสมือนการสร้างโมเดลความร่วมมือที่ครบวงจรอย่างแท้จริง จากความแข็งแกร่งของ BAM ในฐานะผู้ที่มีทรัพย์ NPA คุณภาพหลากหลายรอการพัฒนา UOB ทีมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสินเชื่ออย่างครบวงจร และ BKA ของเราทำหน้าที่เป็น “แกนกลาง” ในการเชื่อมต่อ “ทรัพย์ – การพัฒนา – การเงิน” เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ และคาดหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถขยายพอร์ตได้เพิ่มสูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ”
นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าว “บ้านในทำเลดี คุณภาพได้ ราคาไม่ไกลเกินฝัน คือสิ่งที่ผู้บริโภคมองหาในยุคนี้ ความร่วมมือครั้งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์นั้นอย่างเป็นรูปธรรม บ้านมือสองที่ผ่านการรีโนเวทโดยมืออาชีพภายใต้มาตรฐานที่ธนาคารเชื่อมั่น ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น พร้อมความมั่นใจในคุณภาพของบ้านที่พร้อมอยู่อาศัยจริง
ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ยูโอบีสามารถปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย โดยยูโอบีออกแบบข้อเสนอสินเชื่อพิเศษ ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี และฟรีค่าประเมินหลักประกัน เพื่อให้ลูกค้ามีภาระผ่อนที่คาดการณ์ได้ และสามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของบ้านได้ในเวลาที่ใช่ โดยสมารถปล่อยกู้ได้เต็มตามจำนวนตามสัญญาราคาขาย ทำให้เราเชื่อว่าการปลดล็อกศักยภาพของบ้านมือสอง คืออีกหนึ่งคำตอบสำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยในวันนี้”

