บริษัท ล็อก แอนด์ ล็อก (ประเทศไทย)จำกัด แบรนด์ภาชนะถนอมอาหารและเครื่องใช้ในบ้านชั้นนำจากประเทศเกาหลี มีชื่อเสียมาจากผลิตภัณฑ์กล่องถนอมอาหารที่มีนวัตกรรมป้องกันอากาศเข้าออกและป้องกันการรั่วได้ 100 % เข้ามาเปิดตลาดเมืองไทยเมื่อปี 2551โดย เมื่อปี 2553 ได้มีการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นจากเดิมที่บมจ. ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ถือหุ้นอยู่ 51% เหลือเพียง 3 % และล็อก แอนด์ ล็อก กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายอยู่ให้ห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร็เก็ต ซุเปอร์มาร์เก็ต แฟล็กชิปสโตร์ ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ และเมกาบางนา รวมถึงการขายออนไลน์
“ปีนี้ เป็นโอกาสดีที่ ดีเคเอสเอช หมดสัญญาในการเป็นผู้จำหน่าย บริษัท จึงเข้ามาทำตลาดเองประกอบกับทางบริษัทแม่ที่เกาหลีได้ทำการรีแบรนด์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับร้านค้า จึงได้จังหวะที่ล็อก แอนด์ ล็อก(ประเทศไทย) ปรับภาพลักษณ์ตามให้สอดคล้องกันให้เป็นแฟลกชิบสโตร์ เริ่มสาขาแรกที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ภายใต้ชื่อ PlaceLL (เพลซ แอลแอล )ด้วยทุน 260 ล้านบาทพื้นที่ 129 ตารางเมตรชั้น 5 โซน Atrium ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ครั้งนี้สินค้ามีการจัดวางแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มกล่องบรรจุอาการ ขวดน้ำเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว โดยมีสินค้าเพื่อการเดินทางเข้ามาเพิ่ม เช่น หมอนรองคอ กระเป๋าเดินทางรวมๆแล้ว วันนี้ล็อก แอนด์ ล็อก มีสินค้าจำหน่ายอยู่เกือบ 1,000 เอสเคยู ในสถนนราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 45 บาทถึง 50,000 บาท”นายจุง วุง มูน กรรมการผู้จัดการบริษัท ล็อก แอนด์ ล็อก (ประเทศไทย) จำกัด เล่าที่มาของการเปิดร้าน PlaceLL และเป้าหมายต่อไปให้ฟัง
เป้าหมายของล็อก แอนด์ ล็อก ต่อไปคือการเปิดสาขา แฟลกชิบสโตร์ อีก 6 สาขา โดยปีนี้จะเปิดที่ สามย่านมิตรทาวน์ ในวันที่ 20 กันยายนศกนี้ และปรับโฉมร้านค้าอีก 2 สาขาคือ ที่แฟชั่นไอส์แลนด์ และเมกาบางนา ให้เป็นแบบแฟลกชิปสโตร์ภายใต้ชื่อ PlaceLL ส่วนอีก 5 สาขาจะเปิดในปี 2563 รวมทั้งวางแผนที่จะมีการปรับพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ห้างสรรพสินค้าต่างๆให้เป็นโซลของล็อก แอนด์ ล็อก โดยเฉพาะ โดยจะเริ่มที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ก่อน 3 สาขา หลังจากนั้นจะทยอยปรับที่อื่นๆต่อไป
นอกจากประเทศไทยแล้ว ล็อก แลนด์ ล็อก ยังจำหน่ายอยู่ในประเทศ มาเลเซีย สิงค์โปร์ กัมพูชา พม่า ลาว ผ่านผู้แทนจำหน่าย ในขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย ล็อก แอนด์ ล็อก เข้าไปลงทุนเองโดยตรง
ปัจจุบัน ล็อก แอนด์ ล็อก มีโรงงานผลิตอยู่ 3 แห่ง คือที่ประเทศ เกาหลี จีน และเวียดนาม โดยในส่วนของเวียดนามมีอยู่ 45 สาขาจะเดินหน้าปรับภาพลักษณ์ให้เป็นแฟลกชิปสโตร์ให้ปีหน้า