แสนสิริ เกาะกระแสฝุ่นละออง เตรียมเปิดตัว บ้านปลอดฝุ่น พร้อมปรับแผน กระจายความเสี่ยงปี 62 บุกหนัก ตลาดล่าง เปิดใหม่ 28 โครงการ 69% ราคาไม่เกิน5 ล้านบาทพร้อมโหมสร้างแบรด์สูตลาดโลก เตรียมขยายเข้าตะวันออกกลางเอเชียกลาง จากเป้าขายทั้งหมด 36,000 ล้านบาท เป้ารายได้ 32,000 ล้านบาท
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี62 แสนสิริมีแผนเปิดโครงการใหม่ 28 โครงการรวมมูลค่า 46, 600 ล้านบาท เป็นคอนโดมืเนียม 12 โครงการ มึล่า 22,400 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 9โครงการมูลค่ากว่า 18,700 ล้านบาท และทาวน์เฮ้าส์ 7 โครงการมูลค่า5,500 ล้านบาท โดย69 % จับกลุ่มตลาดล่าง 27 %จับกลุ่มตลาดกลาง และอีก 1%จับกลุ่มตลาดระดับบน ตั้งเป้าพรีเซลไว้ที่ 36,000 ล้านบาท เป้าโอน 32,000 โดยในส่วนของตลาดต่างประเทศตั้งเป้ายอดขาย 9,000 ล้านบาท ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ท14, 000 ล้านบาท เนืองจากมีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียม น้อยลง อย่างไรก็ตามได้มีการ วางเป้าพรีเซล 3ปีระหว่างปี 2562-2564 ไว้ที่160, 000 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงาน ในปี 2561 เป็นปีที่ถือว่าดีที่สุดของในการดำเนินธุรกิจของแสนสิริมาตลอด 34 ปีที่ผ่านมา หรือ Sansiri Best Year Ever จากความสำเร็จรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดกว่า 65,200 ล้านบาทจาก 25 โครงการ ยอดพรีเซลปี 2561 กว่า 48,500 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยเติบโตกว่าปี 2560 ที่อยู่ที่ 38,500 ล้านบาทถึง 25% รวมถึงยอดขายต่างชาติกว่า 14,000 ล้านบาทเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาถึง 51% หรือเติบโตกว่า 5 ปีก่อนถึง 10 เท่า ซึ่งแสนสิริครองอันดับหนึ่งยอดขายต่างชาติสูงสุดมาต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันแสนสิริยังมียอด Backlog รวมกว่า 63,500 ล้านบาท ที่จะช่วยการันตียอดรับรู้รายได้ในอีก 3 ปีข้างหน้าโดยจะโอนในปีนี้15,000 ล้านบาท
ปัจจัยที่ช่วยให้ปี2561บรรลุเป้าหมาย ในปี 2561 คือคืกลุ่มบ้านเดี่ยวเติบโตขึ้นถึง 34 % กลุ่มทาวน์เฮาส์เติบโต 77% และกลุ่มคอนโดมิเนียมโตกว่า 20% โดย โครงการบ้านแสนสิริทำยอดขายไปกว่า 75%ของมูลค่าโครงการทั้งหมดภายใน 6 เดือน การเปิดตัวคอนโดมิเนียมไลฟ์สไตล์เพื่อคนรุ่นใหม่อย่าง XT 3 โครงการรวมกว่า 21,000 ล้านบาทขายได้ถึง 12,000 ล้านบาทภายใน 3 เดือน รวมทั้ง ทาวน์เฮ้าส์แบรนด์ใหม่ “สิริ เพลส” ดันยอดขายทาวน์เฮ้าส์ให้โตขึ้นกว่าปี 2559 ได้ถึง 3 เท่า ขณะที่ยอดขายจากตลาดต่างจังหวัดทำยอดขายถึง 12,000 ล้านบาทหรือคิดเป็น 25% ของยอดขายรวมทั้งหมด เติบโตขึ้นถึง 51%
ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) จำกัด กล่าวว่ากลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2562 ในเรื่องการดูแลสุขภาพและปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น จึงวางวิสัยทัศน์ For Greater Well-being เพื่อต่อยอด 2 แนวคิด Green & Well-being มาประยุกต์ใช้กับทุกโครงการใหม่ของแสนสิริ นำร่องด้วยโครงการเศรษฐสิริ ทวีวัฒนา บ้านเดี่ยวภายใต้คอนเซปต์ Well-being โครงการแรกของแสนสิริที่จะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ รวมทั้งเตรียมเปิดขาย อย่างเป็นทางการ Wellness Residence คอนโดมิเนียมสำหรับคนรักสุขภาพโดยร่วมมือกับโรงพยาบาลสุมิตติเวช เปิดตัวไตรมาส 2 ของปีนี้ บนทำเลศักยภาพกรุงเทพกรีฑา ที่ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ตลอดจนจะรุกแบรนด์บุราสิริมากขึ้นด้วย นอกจากนั้น แสนสิริยังวางแผนที่จะเปิดตัว “บ้านปลอดฝุ่น” หรือ Dust-free House ครั้งแรกของเมืองไทยภายในปีนี้ รวมถึงเปิดอาคารพานิ 5 ชั้นใจกลางเยาวราช ในช่วงไตรมาส 2 ส่วนต่างจังหวัดจะเปิดโครงกาใหม่คิดเป็น 20%ของทั้งหมด ที่หัวหิน ศรีราชา เชียงใหม่ และภูเก็ตเปิดซีรี่ เพลส ในช่วงไต่มาส2
ด้านการพัฒนาโครงการใหม่ในปี้นี้จะมุ่งเน้นเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เพิ่มมากขึ้นโดย นำยแบรนด์เศรษฐสิริที่เป็นบ้านเดี่ยวตอบโจทย์ลูกค้าระดับบนที่ต้องการ บ้านขนาดใหญ่เพื่อครอบครัวขยาย และแบรนด์สิริ เพลสทาวน์เฮ้าส์สำหรับผู้ที่อยากมีบ้านหลังแรกในราคาที่จับต้องได้ ขณะที่คอนโดมิเนียม ก็จะมีการเปิดตัวโครงการในทุกระดับราคาและหลายทำเลเช่นกัน แม้จะเน้นที่กลุ่มตลาดล่างมากขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้แสนสิริยังมุ่งสร้างแบรนด์ในต่างประเทศมากขึ้น โดยมีการขยายตลาดไปยังประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน เวียดนาม จากที่ทำอยู่แล้วใน ฮ่องกง มาเลเซียสิงคโปร์ และในอนาคตจะขยายไปยังตะวันออกกลางและเอเชียกลาง
มั่นที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ทั้งในประเทศและในตลาดต่างประเทศ โดยปีนี้เราเปิด SIRI HOUSE ที่สิงคป์เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา และที่เมืองไทยจะเปิดในซอยสมคิดใกล้เซ็นทรัลชิดลม ในเดือนมีนาคม 2562
SIRI HOUSE จะแตกต่างจากสำนักงานขายทั่วไป เพราะนอกจากมีห้องตัวอย่างแล้วยังมีร้านค้า อาร์ทแกรอรี่ เรสเตอร์รอง เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้ผู้เข้าเยี่ยมชม
ส่วนงบเพื่อการลงทุนปีนี้ตั้งไว้ 22,000 ล้านบาทแบ่งเป็นงบเพื่อการก่อสร้าง 17,000 ล้านบาทงบจัดซื้อที่ดิน 5,000 ล้านบาท